อนุทิน เชื่อ เก้าอี้นายกฯ ไม่ถึงผม ลั่น ถ้ามาจริง ยิ่งกว่าทุเรียนหล่นใส่ เจ็บตายโหง พร้อมหนุนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย แต่ต้องไม่แก้ 112 มั่นใจโหวตม้วนเดียวจบ
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 15 ส.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ว่า ให้ทางพรรคเพื่อไทยสนับสนุนคนที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ
เมื่อถามว่ามีข้อสงสัยในจุดยืนเรื่องมาตรา 112 ของนายชัยเกษม นายอนุทิน กล่าวว่า จุดยืนเรื่องมาตรา 112 ไม่ต้องไปสงสัยเลย มันเป็นความเข้าใจร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ แล้ว จำได้หรือไม่ว่าเรามาแถลงร่วมกัน บอกว่าทุกพรรคเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่แตะต้องในกรณีของมาตรา 112 เหมือนเดิม
เมื่อถามย้ำว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต้องไม่เคยสนับสนุนให้มีการแก้มาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดตรงนั้น เพราะตนรู้ว่าสื่อกำลังพูดถึงแถลงการณ์ของนายชัยเกษม เมื่อปี 64 ถ้าท่านออกมาบอกว่าไม่เกี่ยว เราก็ไม่มีประเด็น แต่ทางพรรคร่วมทุกพรรคจะต้องบอกว่า จะออกมาแถลงร่วมกันว่าเราไม่มีประเด็นเรื่องการแก้ไขมาตรา 112
เมื่อถามอีกว่าหากนายชัยเกษมเคลียร์ประเด็นนี้ได้จะไม่ติดใจใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ติดใจ เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอผู้เหมาะสมเป็นนายกฯ แล้วแต่พรรคเพื่อไทย และหลังจากนี้พรรคร่วมคงจะมีการแถลงร่วมกัน ตอนนี้ต่างคนต่างไปหามติของแต่ละพรรคก่อน พรรคภูมิใจไทยตื่นเช้าหน่อยก็เรียกประชุมเร็ว เมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค.นอนไม่หลับ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป็นเรื่องของพรรคแกนหลัก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกฯ และรักษาการ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการนายกฯ ก็เพิ่งเดินทางกลับมาประเทศไทย มันก็ดำเนินไป สิ่งที่สำคัญ คือ วันที่ 16 ส.ค. ประธานรัฐสภามีการนัดประชุมแล้ว
เมื่อถามว่าดูเหมือนนายชัยเกษมจะมีชนักปักหลังสมัยเป็นอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน กรณีถุงขนม นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นผู้เสนอผู้ที่เหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ
เมื่อถามว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นจะเหมือนเป็นการเตะสกัดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็ต้องเสนอบุคคลที่เหมาะสมที่สุดให้มาดำรงตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากเกิดส้มหล่นมาถึงนายอนุทิน พร้อมรับหรือไม่ นายอนุทินถึงกับร้องในลำคอก่อนหันหน้าไปมองคนถาม จากนั้นได้อมยิ้มและส่ายหน้า พร้อมกับกล่าวว่า “ตามกติกามันไม่ถึงผมหรอกนะ ผมก็เลยสบายใจ”
“ตามกติกาสมมติว่ายังต้องผ่านอีก 2 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม ยังไม่ถึงผมหรอก และถ้าถึงผม มันทุเรียนหล่น ไม่ใช่ส้มหล่น เจ็บตายโหง” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ภายในพรรคภูมิใจไทยเรามีมติ คือ สนับสนุนบุคคลที่พรรคเพื่อไทยพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม โดยที่ต้องไม่มีเรื่องมาตรา 112 แต่ถ้าเสนอชื่อคนที่มีเรื่องมาตรา 112 มันก็ไม่เหมาะสม ถูกหรือไม่ แค่นั้นเอง และบ่ายวันนี้ (15 ส.ค.) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการ ก็อาจจะแจ้งมติก็ได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงตรงนั้น เล่นไปตามกติกา เล่นไปตามบริบท ก็โอเค
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นพรรคร่วมเดิมจากที่ประชุมพรรคร่วมเมื่อวันที่ 14 ส.ค.
เมื่อถามอีกว่าเก้าอี้รัฐมนตรียังเป็นที่เดิมกันหมดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทีละขั้น เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เราพูดถึงเรื่องว่าพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ที่จะเสนอบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ
เมื่อถามอีกว่าในวันที่ 16 ส.ค. จะโหวตนายกฯ จบในวันเดียวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จบสิ พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นด้วยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค. มีการระบุว่านายอนุทิน เดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ไปพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จนมีกระแสข่าวออกมาว่า ต้องการให้เบรกโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจริงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไปคุยแค่เรื่องการดำรงอยู่ด้วยกันของพรรคร่วมรัฐบาล และเมื่อวานตนออกมาก่อน เพราะนัดพรรคพวกรับประทานอาหาร ซึ่งเลื่อนมา 2 ครั้งแล้ว เลื่อนต่อไม่ได้แล้ว เกรงใจ เลยออกมาก่อน
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะมีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี กลับมาอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในที่ประชุมพรรคร่วม ทางพรรคเพื่อไทยเป็นคนเสนอ ก็เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่พบนายทักษิณนั้น นายทักษิณได้กำชับอะไรกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนพบแกนนำพรรคร่วม
