หน้าแรก news หนุ่มกะซวกเพื่อนสนิท เล่นกันมาแต่เด็กตาย เหตุทะเลาะเรื่อง ขโมยกัญชาไปดูดหมด

หนุ่มกะซวกเพื่อนสนิท เล่นกันมาแต่เด็กตาย เหตุทะเลาะเรื่อง ขโมยกัญชาไปดูดหมด

62
0

หนุ่มกะซวกเพื่อนสนิท เล่นกันมาแต่เด็กตาย เหตุทะเลาะเรื่อง “กัญชา” หลังเพื่อนอีกคนขโมยไปดูด แต่ผู้ตายกลับไปเข้าข้างคนที่ขโมย

เวลา 21.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. ร.ต.ท.พีระวิชญ์ จันทจร รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู จึงเดินทางไปตรวจสอบ

หลังเดินทางไปถึง โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายอัมรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ได้เสียชีวิต เนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอาการถูกมีดแทงที่หน้าท้องจำนวน 2 แผล

ต่อมา พ.ต.อ.กฤติเดช ปทุมาพัฒนานนท์ ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ ก่อนตามรวบตัวผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายภวินท์กฤษฎิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ตาย อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

นายภวินท์กฤษฎิ์ รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนไปซื้อกัญชาบ้าน นายอัมรินทร์ ซึ่งเปิดเป็นอู่ซ่อมรถบังหน้า เพื่อนำไปเสพ แต่ไปแวะบ้านเพื่อนคนหนึ่งและลืมกัญชาไว้ ภายหลังกลับมาถึงบ้านนึกได้จึงขี่รถกลับไปเอากัญชา แต่เมื่อไปถึงพบว่าเพื่อนเจ้าของบ้าน ได้เอากัญชาไปสูบหมด โดยที่ไม่ขออนุญาตตน จึงขัดใจและตึงใส่กันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ไม่กี่วันต่อมา ตนบังเอิญเจอเพื่อนคนดังกล่าวนั่งอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปด่า ทำให้ นายอัมรินทร์ ซึ่งอยู่ในร้านด้วยต่อว่าตน เหมือนเข้าข้างเพื่อนคนนั้น จึงตัดสินใจว่าจะเลิกคบเพื่อนกลุ่มนี้ทั้งหมด

ต่อมากีตาร์ตัวโปรดตนหายไปด้วย จึงสงสัยว่าเพื่อนในกลุ่มเอาไป เมื่อพบกับเพื่อนคนที่ขโมยกัญชาไปดูด จึงมีการทะเลาะกันอีก ซึ่งตนได้ท้าทายว่า “ใครอยากมีเรื่องเจอกูได้ที่บ้าน”

วันนี้ นายอัมรินทร์ และเพื่อนในกลุ่มอีก 4-5 คน จึงได้บุกเข้าไปหาตนถึงในบ้าน เมื่อมาถึงได้ล็อกคอและชกใบหน้าตนหลายครั้ง ตนจึงควักมีดพกที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอว แทงสวนไป 2 ครั้ง ผู้ตายวิ่งกระเสือกกระสนออกมา ตนโมโหจึงเดินตามมาด่าผู้ตายที่ล้มฟุบกลางถนนว่า “เห็นไหม คนที่มึงมองเป็นเพื่อนและเข้าข้าง พอเกิดเรื่องกลับวิ่งหนี ทิ้งให้มึงตายอยู่คนเดียว” จากนั้นหลังก่อเหตุ ตนได้พยายามหลบหนี ก่อนถูกตำรวจมาตามจับได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด เนื่องจากดูตามรูปการณ์ เรื่องแค่นี้ไม่น่าจะทำถึงขั้นฆ่ากันได้ โดยจะสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่