เปิดใจน้องชาย หลังโพสต์ไทม์ไลน์พี่สาว ก่อนพบเป็นศพเปลือย เกาะสีชัง หลังไปเที่ยวเพียงลำพัง ไม่เชื่อปมคิดสั้น ตร.เร่งหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. คุณแบงค์ ให้สัมภาษณ์กับ “ข่าวสดออนไลน์” ถึงไทม์ไลน์การเสียชีวิตของพี่สาว ขณะที่ไปเที่ยวเกาะสีชังคนเดียว สุดท้ายเสียชีวิต ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า มีเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ทางครอบครัวจึงสงสัย เกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวกันแน่
คุณแบงค์ กล่าวว่า ตนทราบข่าวพี่ดา พี่สาวของตนจากทางไลน์กลุ่มของครอบครัว เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็น วันที่ 31 พ.ค. 2567 และได้เดินทางไปหาน้าที่ระยอง เพื่อไปรับศพพี่สาวด้วยกัน หลังจากเริ่มตั้งสติได้ในช่วงวันจันทร์ตอนสายๆ จึงเริ่มเอะใจว่าถึงสภาพศพที่มีแค่เสื้อใน เสื้อผ้าหาย กางเกงขาด ในส่วนของกระเป๋า รองเท้า ก็ถูกวางไว้เป็นระเบียบจนผิดสังเกตุ
รวมไปถึงแว่นตาที่กระจกด้านซ้ายแตกหายไป จึงได้นำข้อมูลและไทม์ไลน์ต่างๆไปโพสต์ลงกลุ่มในพื้นที่เกาะสีชัง เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หากใครมีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมให้ส่งมาทางแช็ตเฟซบุ๊กได้ จากนั้นก็มีหลายคนทักเข้ามาให้ข้อมูลว่าเคสนี้มีลักษณะแปลกๆ และไม่ปกติ โดยตยได้รวบรวมไทม์ไลน์บนเกาะคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
เวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 30 พ.ค. 2567 คุณดาลงเรื่องที่เกาะสีชัง และไปเช่ามอเตอร์ไซค์แถวท่าเรือ 250 บาท จ่ายเป็นเงินสด หลังจากนั้นก็ขับไปกินข้าวและดื่มเบียร์ที่ร้านแห่งหนึ่ง ตั้งแต่เวลา 11.00 ไปจนถึงประมาณบ่าย 3 ในระหว่างนั้นมีพนักงานผู้หญิงเข้ามาคุยเล่นด้วย ซึ่งพนักงานดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่าคุณดาดูไม่ได้มีท่าทีที่จะคิดสั้น ยังดูสดใสดี
หลังจากนั้นคุณดาก็ไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่ช่องเขาขาด เวลาประมาณ 16.10 น. และเมื่อเวลา 16.40 น.ได้ส่งข้อความหาแฟนหนุ่มว่า “ลาก่อนนะคนเก่ง” รวมถึงส่ง Location ไปหาน้าสาว และหลังจากนั้นคุณดาก็หายไปจนกระทั่งตอนเช้ามีนักตกปลามาเจอกระเป๋าวางไว้ที่แหลมเขาขาด
และได้มาโพสต์ในกลุ่มตามหาเจ้าของจนเวลา 11.00 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคม ชายหญิงผัวเมียที่กำลังไปตกปลาเจอศพของคุณดา จึงได้บอกเจ้าหัวหน้าบริษัทและดำเนินการแจ้งทีมกู้ภัยเข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ด้านตำรวจค่อนข้างให้น้ำหนักไปทางคิดสั้น เนื่องจากเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว คุณดามีประวัติที่จะแบบนี้มาก่อน โดยมีการเขียนโน้ตให้กับทางครอบครัวเรื่องการแบ่งทรัพย์สิน พร้อมขอโทษที่ทำแบบนี้ ครอบครัวจึงพยายามติดต่อไป
สุดท้ายคุณดาก็ได้โทรกลับหาน้าสาว บอกว่าตนรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง และฝากขอโทษครอบครัวที่คิดน้อยไป จริงๆแล้วไม่กล้าทำหรอก เพียงแค่อยากประชดแฟนเท่านั้น หลังจากนั้นคุณดาก็ใช้ชีวิตตามปกติ เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมายังไปเที่ยวบ้านคุณน้าที่ระยองกับครอบครัวอยู่เลย คุณแบงค์ยืนยันว่า ตอนนั้นพี่สาวดูสดใสร่าเริงปกติ แม้จะเคยคิดสั้น แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน
คุณแบงค์บอกว่า ตนนั้นไม่ปักใจเชื่อแต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นเรื่องคิดสั้นทิ้ง เพียงแต่ไทม์ไลน์กับสภาพศพดูมีความผิดธรรมชาติ และสงสัยว่าทำไมเสื้อผ้าถึงหายไปหมด จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ กระจกที่พกมาในกระเป๋าแตก สภาพศพ ท้ายทอยบวม พบคิ้วแตกข้างซ้ายซึ่งเป็นมุมเดียวกับแว่นที่แตก รวมไปถึงระยะทางที่ศพลอยจากช่องเขาขาด ค่อนข้างไกลและต้องข้ามโค้งเขามาด้วย
นอกจากนี้คุณแบงค์ยังบอกว่าพี่สาวของตนนั้นไปเที่ยวที่เกาะสีชังคนเดียว เพราะอกหัก มีปัญหากับแฟนหนุ่มที่มีเรื่องของการชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นสาเหตุของความคิดที่จะคิดสั้นเมื่อ 3 เดือนก่อน แต่ก็ยังไม่ได้เลิกกับแฟน อยู่ในความสัมพันธ์คลุมเครือและยังอาศัยอยู่ด้วยกันอยู่ที่ศรีราชา ตัวคุณแบงค์เองได้เจอแฟนของพี่สาวตอนงานศพ
ซึ่งตนนั้นได้คุยกับตัวพี่สาวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนคนที่เจอพี่ดาล่าสุดก็มีแค่เพียงพนักงานหญิงในร้านที่เข้ามาคุยด้วยเท่านั้น ในเรื่องของผลการชันสูตร ต้องรอประมาณ 45 วัน จึงยังไม่รู้ผลในตอนนี้ แต่จากตรวจสอบ กระเป๋าไม่ได้มีของมีค่าหาย มือถือยังอยู่ครบและไม่ได้แตก ซึ่งตอนนี้อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่มีใครเปิดเข้าไปได้
ระหว่างนี้คุณแบงค์จึงอยากหาหลักฐานเพิ่มเติมและอยากให้สื่อเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ เนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกาะสีชังเสียเยอะ ตัวคุณแบงค์ตามเรื่องนี้เองคนเดียวไม่ไหวเนื่องจากอยู่ไกล รวมไปถึงต้องการหาเสื้อผ้าที่หายไปให้เจอ
ด้านพ.ต.อ.ภาคภูมิ นาคพนม ผกก.สภ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2567 ผู้ตายได้นั่งเรือมาคนเดียวถึงเกาะสีชัง เวลา 10.45 น. และเช่ามอเตอร์ไซค์ หลังขึ้นจากเรือ จ่ายเงินสด 250 บาท และในช่วงบ่ายไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านอาหารเกาะสีชัง ตั้งแต่เวลา 11.30-14.30 น.
มีพนักงานมานั่งคุยด้วย ไม่มีเงินสด จ่ายเงินโอนทั้งค่าเบียร์ และค่าทิป 100 และโอนส่วนตัวให้พนักงาน หลังจากนั้น ได้ไปซื้อเบียร์กระป๋องที่ร้านค้าป้า ใกล้ร้านอาหารที่นั่งกินเบียร์ ร้านค้าอยู่ตรงข้ามโรงแรม ก่อนจะหายตัวไป
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับคดี ได้ลงพื้นที่ตามหาภาพกล้องวงจรปิดตามมุมต่างๆ ของเกาะสีชังเพื่อดูข้อมูลของผู้เสียชีวิตที่มาเสียชีวิตบนเกาะสีชังโดยหลังจากการไล่กล้องวงจรปิดพบว่า
ผู้ตายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไปอยู่ที่บริเวณเขาขาดในช่วงเวลา 16.00 น. หลังจากนั้นก็ไม่พบผู้ตายออกมาจากจุดเกิดเหตุอีกเลย ซึ่งในเวลาต่อมา มีชาวบ้านพบกระเป๋าผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณเขาขาด จึงเดินทางไปตรวจสอบพบแต่กระเป๋าเป้ รองเท้า และแว่นตา วางอยู่ที่บริเวณขอบหน้าผา.
จากการตรวจสอบ พบเป็นร่างผู้เสียชีวิตที่ลอยมาเกยตื้น เจ้าหน้าที่ได้นำส่งชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิต โดยในเบื้องต้นจากการไล่กล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบพิรุธแต่อย่างใด โดยคาดว่าผู้เสียชีวิตนั้นอาจจะเสียใจที่ทะเลาะกับแฟนและมาดื่มเบียร์ย้อมใจ ก่อนที่จะคิดสั้นกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลชันสูตรอีกครั้งถึงจะทราบสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างแท้จริง เนื่องจากสภาพผู้เสียชีวิตนั้นไม่สวมเสื้อผ้าสวมเพียงชุดชั้นในเพียงตัวเดียว หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่พยายามหาข้อมูลสืบสวนจนถึงแฟนผู้เสียชีวิต
จากการสอบถามแฟนผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ได้มีการทะเลาะกันและเลิกกันและมี message หากัน โดยผู้เสียชีวิตได้ทิ้ง message ไว้ให้ตนเองจากนั้นได้เสียชีวิตลง ก็พบพินัยกรรมที่เขียนด้วยปากกาในสมุดทิ้งไว้ให้ดูตนเองได้นำมามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เอาไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำข้อมูลและหลักฐานใบพินัยกรรมไปตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อยืนยันว่าเป็นของผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่
ด้านนางยุพา อายุ 58 ปี แม่ค้าร้านค้า เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตนั้นได้มาซื้อเบียร์ที่ร้านตนเองจำนวน 2 กระป๋อง ในลักษณะท่าทางก็ปกติดีโดยผู้เสียชีวิตที่ตนเองเห็น ได้ขี่รถมาจอดที่บริเวณหน้าร้านในชุดสวมเสื้อยืดสีขาวแต่จำลายไม่ได้ หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตได้ขี่รถออกไป
จนกระทั่งมีชาวบ้านมาบอกตัวเองว่า มีลูกค้าที่มาซื้อเบียร์ตนเมื่อวานเสียชีวิต ตนตกใจมาก โดยมีชาวบ้านมาบอกว่ามีคนพบศพนักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่ท่ายายทิม แต่ตอนนี้ไม่มั่นใจว่าเป็นการฆาตกรรมหรือเป็นการคิดสั้น
เนื่องจาก มีชาวบ้านพบกระเป๋าเป้เดินทางและรองเท้าวางอยู่ที่บริเวณหน้าผาเขาขาด หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้านตนเองก็เปิดให้ดู โดยไม่พบพฤติกรรมที่น่าสงสัยอย่างใด โดยผู้เสียชีวิตขี่รถ จยย. มาเพียงคนเดียว
