จับแล้ว หนุ่มโหด ฆ่าน้องดรีม ทิ้งศพหมกป่าในพื้นที่ จ.เพชรบุรี หลังตำรวจออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบปากคำ
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบศพสาวนิรนามเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้าที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบที่ข้อมือซ้าย สวมนาฬิกา สายสีฟ้า เรือนทอง 1 เรือน ที่นิ้วกลางสวมแหวนทอง 1 วง ที่ข้อมือขวาสวมสร้อยลูกปัดหินมงคล 1 เส้น และที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก 1 แห่ง ซึ่งศพมีสภาพเน่าเปื่อย ไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นใคร
ต่อมาได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เบญจรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องดรีม อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย ผู้สูญหายที่ญาติได้โพสต์ประกาศออกตามหาก่อนหน้านี้
กระทั่งวันที่ 9 มิ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับ นายอนุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ลอบฝังศพ, ซ่อนเร้น, ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 10 มิ.ย.2567 รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว นายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้วบริเวณถนนเพชรเกษม ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวและอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ออกหมายจับแล้ว หนุ่มต้องสงสัย ฆ่าน้องครีม ทิ้งศพในป่า ตำรวจเร่งล่าตัว
ออกหมายจับแล้ว หนุ่มต้องสงสัย ฆ่าน้องครีม ทิ้งศพในป่า ตำรวจเร่งล่าตัว
วันที่ 9 มิ.ย.67 จากกรณีพบศพหญิงสาวนิรนาม เสียชีวิตในพงหญ้าที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกาสายสีฟ้า เรือนทอง 1 เรือน ที่นิ้วกลางสวมแหวนทอง 1 วง และที่ข้อมือขาวสวมสร้อยลูกปัดหินมงคล 1 เส้น ที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก 1 แห่ง ต่อมาได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เบญจรัตน์ หรือน้องครีม อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย ผู้สูญหายที่ญาติได้โพสต์ประกาศออกตามหาก่อนหน้านี้ อ่านข่าว
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ โดยพบภาพกล้องวงจรปิดบนถนน ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ในช่วงเวลา 02.01 น. ของคืนวันที่ 3 มิ.ย. สามารถจับภาพรถต้องสงสัยได้ โดยมีชายต้องสงสัยปรากฏอยู่ภายในรถคันดังกล่าวด้วย ซึ่งอาจจะผู้ก่อเหตุอาจจะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปทิ้งในบริเวณจุดเกิดเหตุแล้ว โดยรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับไปในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม จากนั้นจึงได้ยูเทิร์นกลับมาที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 22.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลจังหวัดเพชรบุรี อนุมัติออกหมายจับ เลขที่ 221/67 เพื่อจับกุมตัว นายอนุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาว ประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ลอบฝังศพ, ซ่อนเร้น, ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือสาเหตุแห่งการตาย โดยขณะนี้ นายอนุวัฒน์ ได้หลบหนีไป อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว
จำรอยสักหมีพูห์ได้ แม่ยันศพสาวนิรนามคือลูกสาว หลังหายตัวเชื่อถูกฆ่า เผยปมเหตุแฟนหนุ่ม
แม่ยืนยันศพสาวนิรนามร่างเน่าเปื่อยคือลูกสาว จำรอยสักหมีพูห์ แหวน-นาฬิกาที่สวมใส่ได้ หลังหายตัวเชื่อถูกฆาตกรรม เผยปมเหตุสงสัยแฟนหนุ่ม
แม่ยืนยันศพสาวนิรนามที่ถูกทิ้งในพงหญ้าที่เขาย้อย คือลูกสาว ก่อนหายตัวโทรมาบอกกำลังจะเอารถยนต์ไปคืนแฟนหนุ่มหลังจากทะเลาะกัน กระทั่งกลายเป็นศพ ชื่อเป็นการฆาตกรรม
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย เพชรบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบศพสาวนิรนามที่นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 144 อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกาสายสีฟ้าเรือนทอง 1 เรือน ที่นิ้วกลางสวมแหวนทอง 1 วง และที่ข้อมือขวาสวมสร้อยลูกปัดหินมงคล 1 เส้น และที่หัวไหล่ด้านซ้ายมีรอยสัก 1 แห่ง ซึ่งศพมีสภาพเน่าเปื่อยไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ว่าเป็นใคร คาดว่าเป็นศพ น.ส.เบญจรัตน์ เชยจันทร์ อายุ 21 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ญาติได้โพสต์ประกาศออกตามหา
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพไปเก็บรักษาที่วัดถ้ำแก้ว อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อรอญาติเดินทางมาตรวจสอบและยืนยันตัวตน จากนั้นจะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน 2567 น.ส.พรพรรณ นาสมสี อายุ 42 ปี อยู่หมู่ 3 ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเขาย้อย เข้าพบ พ.ต.อ.ธิป เข่งคุ้ม ผกก.สภ.เขาย้อย เพื่อให้ข้อมูลและยืนยันตัวตนว่า ศพหญิงนิรนามที่พบคือบุตรสาวของตัวเอง เนื่องจากจำรอยสักหมีพูห์ รวมถึงแหวน นาฬิกาที่น้องสวมใส่
น.ส.พรพรรณ เล่าว่า ก่อนหน้านี้บุตรสาวทำงานโรงงานก่อนลาออกไปทำงานฟาร์มหมูที่ จ.พิจิตร จากนั้นไปอยู่ที่ภูเก็ตโดยไม่ทราบว่าทำงานอะไร ก่อนพบศพเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา บุตรสาวโทรมาบอกว่าได้ทะเลาะกับนายเคซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม
โดยนายเคได้ทวงรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 3 สษ 5699 กรุงเทพฯ ตนจึงบอกลูกว่าให้ขับรถไปจอดที่สถานีตำรวจที่ใกล้เคียง และให้นายเคมารับรถเอง เนื่องจากเป็นห่วงลูกกลัวจะถูกนายเคทำร้าย
ลูกสาวจึงได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจาก จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีกเลย กระทั่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบศพและส่งรูปให้ดู จึงแน่ใจว่าเป็นบุตรสาวของตนจริง ตนเชื่อว่าต้องเป็นการฆาตกรรมจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด