รวบ ‘ต๊ะ บางหว้า’ ขี่รถพาดีเจ บุกยิงคู่อริ กลางงานวันเกิด เจ็บสาหัส
สืบนครบาล ตามรวบ ‘ต๊ะ บางหว้า’ ตัวขี่รถพาดีเจหัวร้อน บุกยิงคู่อริทางโซเชียลบาดเจ็บสาหัส กลางงานวันเกิด เหตุเกิดในพื้นที่หนองแขม
จากกรณี นายอมรเทพ ผู้เสียหาย ถูกคู่อริก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ฝ่าไม้กั้น รปภ. หน้าหมู่บ้านเข้าไปยิงใส่กลางงานวันเกิดของผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค. 67 เวลาประมาณ 22.00 น. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบคนร้ายที่ก่อเหตุ
วันที่ 28 พ.ย. 67 พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
จับกุม นายสุรศักดิ์ หรือ ต๊ะ บางหว้า อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ. 601/2567 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ , พาอาวุธ(ปืน)ไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งให้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน” จับได้ที่บ้าน ซอยศาลธนบุรี19 แยก 5 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา
สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีกลับมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อหลบหนีการถูกจับกุมหลังหลบหนีออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯ หลังก่อเหตุและกลับเข้ามาเมื่อเรื่องเริ่มเงียบลง
จากการตรวจสอบประวัติ นายสุรศักดิ์ พบว่าปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหา อีก 1 คดี ประกอบด้วย คือ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ จ.139/2567 ลงวันที่ 10 ก.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนฯ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสุรศักดิ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองแขม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ดำเนินการอายัดตัวเพื่อดำเนินคดีตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายสุรศักดิ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เป็นผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นแอร็อกซ์155 สีฟ้า เขียว ซึ่งเป็นรถของแม่ตน โดยมี นายพิศิษฐ์ หรือ อชิ เป็นเพื่อนซ้อนท้าย และเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายต้น ซึ่งเป็นคู่อริที่มีเรื่องโพสต์ด่าว่ากันไปมาทางโซเชียล ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในหมู่บ้าน ซอยเพชรเกษม69
หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์พา นายพิศิษฐ์ ไปแถวพุทธมณฑลสาย4 ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี โดยตนหลบหนีไปหาญาติฝ่ายพ่อที่อยู่แถวบางใหญ่ หลบพักที่บ้านญาติฝ่ายพ่อได้ 1 วัน จากนั้นตนได้หลบหนีต่อไปในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้หลบซ่อนตัวอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ จนเรื่องเงียบ จึงเดินทางกลับมาเช่าบ้านพัก ในซอยศาลธนบุรี เขตภาษีเจริญ จนมาถูกจับกุมในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า โซเชียลมีเดียช่วยย่อโลกให้เล็กลง ติดต่อกันง่าย ใกล้ชิดกันมากขึ้น เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ไว โดยกลุ่มเด็กและเยาวชน เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากวุฒิภาวะ การใช้อารมณ์ บางครั้งทำให้ต้องลงเอยกับปัญหาความบาดหมาง ความขัดแย้ง ทะเลาะกัน ท้าทายกันในโซเชียล อวดว่าตนเองเก่ง ตัวข้าแน่กว่า นำไปสู่การใช้ความรุนแรง
จนทำให้การบาดเจ็บ ล้มตายก็มี เสียทั้งเงินและอนาคต ถูกจับติดคุกหลายปี ฉะนั้นควรต้องรู้จักให้อภัย อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล การป้องกันที่ดีนั้น พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยการให้ความรัก ให้เวลา ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ปลูกฝังและวางรากฐานทางคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็ก มีสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว