ซื้อของออนไลน์ แต่ได้สินค้าไม่ตรงปก ทำยังไงถึงจะได้เปลี่ยนของ-คืนเงิน ?
ซื้อของออนไลน์ แต่ได้สินค้าไม่ตรงปก ทำยังไงถึงจะได้เปลี่ยนของ-คืนเงิน ?
ซื้อของออนไลน์ แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่หลายคนก็พบเจอปัญหาไม่น้อย เมื่อสินค้าที่ซื้อมา บางครั้งก็ชำรุดเสียหายและไม่ตรงปกอย่างที่คิด
สำรวจเพิ่มเติม
เป๋าตัง
ของดีราคาถูกมีให้เห็นเต็มไปหมดเวลาช้อปปิ้งออนไลน์ ยิ่งรูปสวยก็ยิ่งน่าสนใจ แต่เดี๋ยวนี้จะวางใจ สั่งซื้อโดยไม่ตรวจสอบให้ดีไม่ได้แล้ว เพราะรูปที่เห็นอาจถูกแต่งให้สวยเกินจริง โดยที่ของไม่ได้มีคุณภาพ หรือเลวร้ายกว่านั้นคือ ของที่ได้รับเป็นคนละอย่างกับที่สั่งซื้อมาในตอนแรกเลยก็ได้ เดือดร้อนถึงผู้บริโภคอย่างเรา ต้องเสียเวลาคืนของหรือตามคนขายให้ช่วยแก้ไข โดยที่บางรายก็อาจปฏิเสธความรับผิดชอบ ให้เราเสียเงิน เสียความรู้สึกฟรี ๆ ก็มี ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับเรา ในฐานะผู้บริโภค จะสามารถเรียกร้องและดำเนินการอะไรได้บ้าง มาดูกันเลย
1) ติดต่อผู้ขายให้แก้ไขปัญหา
เมื่อสินค้ามีปัญหา ลองติดต่อผู้ขายให้แก้ไขปัญหาโดยตรงก่อน เพื่อดูว่าจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ
ขอเปลี่ยนสินค้า
หากพบว่า สินค้าไม่ตรงกับคำโฆษณา รวมทั้งมีลักษณะชำรุดบกพร่อง เรามีสิทธิ์ที่จะขอเปลี่ยนสินค้าได้ ซึ่งถ้าหากร้านค้าคู่กรณีมีเงื่อนไขให้สามารถคืนสินค้าได้ในระยะเวลาที่กำหนด ให้รีบดำเนินการส่งคืนสินค้าหรือเคลมสินค้ากับผู้ขายโดยทันที

สำรวจเพิ่มเติม
เป๋าตัง
แต่หากพ้นกำหนดระยะเวลาที่ผู้ขายรับประกันแล้ว ให้ดูว่ามีใบรับประกันตัวสินค้าหรือไม่ เพราะสินค้าบางประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะมีใบรับประกันอยู่ แล้วนำใบรับประกันนั้นติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าโดยตรง เพื่อขอเคลมสินค้าตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
ขอคืนเงิน
เราในฐานะผู้บริโภคมีสิทธิ์ขอเงินคืนเต็มจำนวน เมื่อสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับความต้องการหรือมีลักษณะชำรุดบกพร่อง อย่างไรก็ตาม แต่ละร้านค้าก็มีเงื่อนไขหรือนโยบายรับมือที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากต้องการขอคืนเงินร้านค้าออนไลน์แต่ละช่องทาง สามารถทำได้ ดังนี้
* ติดต่อผ่านทางข้อความ โทรศัพท์ หรือแจ้งเข้าไปในระบบเว็บไซต์
หากเป็นร้านค้าในโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ฯลฯ สามารถพิมพ์ข้อความไปในอินบ็อกซ์ หรือโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ขายโดยตรง เพื่อเล่าถึงปัญหาและแสดงความต้องการขอคืนเงิน โดยจะทำการขอคืนเงินผ่านรูปแบบ Mobile Banking หรือวิธีอื่น ๆ ก็แล้วแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน
ส่วนเว็บไซต์ผู้ผลิตและจำหน่ายโดยตรง หรือเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ เช่น ลาซาด้า หรือ ช้อปปี้ ให้ทำตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนด โดยส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์เหล่านี้จะคืนเงินต่อเมื่อเราได้ยกเลิกสินค้าหรือคืนสินค้าแล้วเท่านั้น

โดยหากต้องการคืนสินค้าเพื่อขอคืนเงิน ให้เข้าไปในระบบแล้วส่งคำสั่งคืนสินค้า เมื่อขั้นตอนการคืนสินค้าเสร็จเรียบร้อย ระบบจะทำการคืนเงินผ่านช่องทางที่ผู้ซื้อได้ชำระเงินเข้ามา ซึ่งระยะเวลาในการคืนเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ ก็อาจแตกต่างกันไป เช่น ถ้าชำระเงินปลายทาง เอทีเอ็ม โมบายแบงกิ้ง จะคืนเงินภายใน 1 วัน ชำระผ่านบัตรเครดิตหรือการผ่อนชำระ คืนเงินภายใน 7-15 วันทำการ ชำระผ่านบัตรเดบิต คืนเงินใน 45 วันทำการ เป็นต้น
ทั้งนี้ ก่อนคืนสินค้าและขอคืนเงิน ควรอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขให้ดี เพราะสินค้าบางประเภทก็ไม่รับเปลี่ยนรับคืน เช่น หนังสือและนิตยสารออนไลน์ บัตรเติมเงิน ภาพยนตร์ เพลง ซอฟต์แวร์ออนไลน์ ฯลฯ รวมถึงหากบรรจุภัณฑ์เปิดออก หรือสินค้าเกิดความเสียหายขึ้น ก็เปลี่ยนไม่ได้เช่นกัน จึงควรปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดก่อนคืนสินค้า
* ทำหนังสือบอกเลิกสัญญาและขอคืนเงิน
หากไม่สามารถตกลงกับผู้ขายผ่านข้อความหรือพูดคุยกัน ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ว่า ต้องแสดงเจตนายกเลิกสัญญาถึงผู้ขาย ด้วยการทำหนังสือ เพื่อเราจะได้มีหลักฐานไว้ยืนยันว่ามีความต้องการขอคืนเงินตั้งแต่ต้น โดยส่งให้กับทางร้านโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในโซเชียลมีเดีย หรือร้านค้าในเว็บไซต์ ในรูปแบบของจดหมาย อีเมล (E-mail) หรือไปรษณีย์ลงทะเบียน ลงวันเวลาที่ผู้ซื้อได้บอกเลิกสัญญา โดยระยะเวลาที่ควรดำเนินการขึ้นอยู่กับวิธีที่เราได้ชำระเงิน คือ

>> ชำระเงินแบบโอนเงิน : เรามีสิทธิ์ขอคืนเงินจากผู้ขายได้ หากสินค้าชำรุดและไม่ตรงปก โดยทำหนังสือยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินส่งไปยังผู้ขาย ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสินค้า
>> กรณีชำระเงินแบบบัตรเครดิต : เราสามารถใช้สิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้ โดยทำเป็นหนังสือยกเลิกสัญญาและขอคืนเงินถึงผู้ขายภายใน 45 วัน นับแต่วันสั่งซื้อสินค้า หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถึงวันกำหนดส่งมอบสินค้า โดยผู้ขายเมื่อได้รับหนังสือแล้วจะต้องคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อภายใน 30 วัน
ทั้งนี้ หากผู้ขายไม่คืนเงิน กฎหมายยังอนุญาตให้ผู้บริโภคสามารถยึดสินค้าไว้จนกว่าจะได้รับเงินคืนอีกด้วย ในทุกแพลตฟอร์มของร้านค้าออนไลน์
สำหรับการทำหนังสือบอกเลิกสัญญา เพื่อแสดงเจตนาขอคืนเงิน มีรายละเอียดดังนี้
1. สถานที่ที่ทำหนังสือ
2. วัน/เดือน/ปี
3. เรื่อง บอกเลิกสัญญา
. เรียน ชื่อร้านค้า บริษัท…………….
5. ย่อหน้าแรก บอกว่าเราเป็นใคร ซื้อสินค้าอะไร เมื่อวันที่เท่าไหร่ เกิดปัญหาอย่างไร ย่อหน้าที่สอง บอกขอยกเลิกสัญญาและขอเงินคืนเป็นจำนวนเท่าไหร่ และกำหนดระยะเวลาในการคืนเงิน
6. ขอแสดงความนับถือ และลงลายมือชื่อ
เมื่อโอนเงินแล้ว อย่าเพิ่งลบข้อมูลต่าง ๆ ของร้านค้าที่เราติดต่อไว้ เพราะหากสินค้ามีปัญหาจะได้ใช้เป็นหลักฐานในการเปลี่ยน/เคลมสินค้า หรือแจ้งความได้ โดยสิ่งที่จะใช้เป็นหลักฐาน ได้แก่
– ข้อมูลร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บไซต์ รูปโปรไฟล์ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัญชีของร้านค้า
– ข้อความในแชตที่เราพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการสอบถาม สั่งซื้อ ยืนยันการชำระเงิน ฯลฯ ผ่านทางไลน์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม
– ใบสั่งซื้อสินค้า
– หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี เช่น สลิป, ใบนำฝาก
– ถ่ายรูปสภาพสินค้าให้ทั่วทุกมุม ในจุดที่เป็นตำหนิ หรือไม่ตรงกับที่ร้านโฆษณาไว้เป็นหลักฐาน
3) แจ้งความ
เมื่อดำเนินการติดต่อร้านค้าแล้